ข่าวจากเว็บไซต์ Metro เกี่ยวกับคำให้การของริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เขาชี้ว่ามีเพียงหนึ่งสิ่งเท่านั้นที่สามารถหยุดไม่ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้
ริโอ เฟอร์ดินานด์ เชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะชนะยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่พวกเขาอาจถูกหยุดยั้ง ซิตี้ได้เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของ UCL ในคืนวันพุธหลังจากชนะ โคเปนเฮเก้น 3-1 ที่เอติฮัด (รวมผลสองนัด 6-2) ด้วยประตูจากมานูเอล อาคันจี, ฮูลิอัน อัลวาเรซ และเออร์ลิง ฮาแลนด์ ในครึ่งแรกทำให้พวกเขาได้สิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ทีมอื่นๆ ที่จะเข้าร่วมในรอบนี้ได้แก่ เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และ PSG รวมถึงผู้ชนะจากการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เหลือซึ่งอาจรวมถึงทีมอย่างอาร์เซนอล, บาร์เซโลนา และอินเตอร์ มิลาน แต่ “เรือใบสีฟ้า” ยังคงเป็นทีมเต็งที่จะป้องกันตำแหน่งของพวกเขา และเฟอร์ดินานด์เชื่อว่าไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาจากการเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศที่จะจัดขึ้นที่เวมบลีย์ในวันที่ 1 มิถุนายนได้ มีโอกาสที่พวกเขาอาจถูกพลิกล็อกในนัดชิงชนะเลิศ แต่นั้นจะเกิดขึ้นได้เฉพาะเมื่อคู่ต่อสู้ของพวกเขามี ‘ดาวเด่น’ จากหนึ่งหรือสองผู้เล่นที่สามารถพลิกเกมได้
ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวกับ TNT Sports หลังจบเกมว่า “ผมเพียงแค่ไม่เห็นว่ามีใครจะเอาชนะพวกเขาได้ในสองเลก แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเข้าไปในนัดชิงชนะเลิศ” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ถูกมองว่าเป็นทีมที่หยุดไม่อยู่ตามคำของเฟอร์ดินานด์ และเขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นกับทีมใดในนัดชิงชนะเลิศ ทีมนั้นต้องมีดาวเด่นจากหนึ่งหรือสองผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ แล้วพวกเขาจึงมีโอกาส มีช่องทาง แต่สำหรับซิตี้ ผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมเต็งอย่างชัดเจน พวกเขาอยู่ในระดับที่สูงกว่า”
นอกจากนี้ เฟอร์ดินานด์ยังเน้นย้ำถึงความยากในการป้องกันแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก โดยมีเพียงเรอัล มาดริดเท่านั้นที่สามารถป้องกันตำแหน่งได้สำเร็จระหว่างปี 2016 ถึง 2018 นับตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อการแข่งขันในฤดูกาล 1992/93 แมนเชสเตอร์ ซิตี้จึงมีเป้าหมายในการป้องกันตำแหน่งทริปเปิ้ลแชมป์ของพวกเขาและกำลังเผชิญหน้ากับสองเกมสำคัญในสัปดาห์ถัดไปซึ่งอาจตัดสินอนาคตของพวกเขา
ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะเดินทางไปยังลิเวอร์พูล คู่แข่งชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในวันอาทิตย์ ก่อนจะเป็นเจ้าภาพรับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดในรอบก่อนรองชนะเลิศของเอฟเอคัพในวันเสาร์ถัดไป อย่างไรก็ตาม ซิตี้มีสถิติการแพ้เพียงสี่เกมในทุกรายการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นเกมนอกบ้าน ที่อาร์เซนอล, วูล์ฟแฮมป์ตัน, แอสตัน วิลล่าในพรีเมียร์ลีก และที่นิวคาสเซิลในคาราบาวคัพ
การมองหาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฐานะทีมเต็งสูงสุดในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเมื่อพิจารณาจากฟอร์มการเล่นและความสามารถในการทำประตูของพวกเขา อย่างไรก็ตาม การให้ความสำคัญกับคู่แข่งในนัดชิงชนะเลิศและความจำเป็นในการมีผู้เล่นที่สามารถสร้างความแตกต่างได้เป็นสิ่งที่ทีมอื่นๆ ต้องพิจารณาหากพวกเขาหวังจะชนะเหนือทีมที่มีพลังเช่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ การป้องกันตำแหน่งแชมป์และความสำเร็จในการทำทริปเปิ้ลแชมป์เป็นเป้าหมายที่ท้าทายและเป็นการพิสูจน์ความสามารถของทีมและผู้จัดการทีมในการรักษามาตรฐานการเล่นที่สูงสุดในทุกรายการแข่งขัน
ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้พุ่งทะยานในเส้นทางสู่ความสำเร็จของยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แสดงความเห็นถึงปัจจัยเดียวที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการคว้าแชมป์ของพวกเขา นั่นคือ ‘ดาวเด่น’ ในทีมคู่แข่ง ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ในนัดชิงชนะเลิศ เขายืนยันว่าซิตี้เป็นทีมเต็งหนึ่ง แต่สำหรับการชิงชัยในนัดชิงชนะเลิศ อาจต้องพึ่งพาปัจจัยพิเศษจากนักเตะบางคนในทีมคู่แข่ง เพื่อที่จะสามารถพลิกเกมได้ เกร็ดความรู้จากข่าวนี้คือ เรอัล มาดริด เป็นทีมเดียวที่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ ระหว่างปี 2016 ถึง 2018 นับตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อการแข่งขันในฤดูกาล 1992/93 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาความเป็นเลิศในเวทียุโรป
ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่กำลังเข้มข้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นทีมชั้นนำของยุโรป ด้วยการเดินหน้าทะยานสู่รอบต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้นำทัพ การเล่นที่โดดเด่นของพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงระบบการเล่นที่เน้นการครองบอลและการโจมตีอย่างเฉียบขาด ทำให้ทีมเต็งหนึ่งในการคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ริโอ เฟอร์ดินานด์ มองว่า คู่แข่งที่จะสามารถหยุดยั้งซิตี้ได้คือทีมที่มีนักเตะสตาร์ที่สามารถพลิกเกมได้ในนัดชิงชนะเลิศ ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจคือ แม้แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะโดดเด่น แต่การแพ้เกมนอกบ้านถึง 4 ครั้งในฤดูกาลนี้ ที่อาร์เซนอล, วูล์ฟแฮมป์ตัน, แอสตัน วิลล่าในพรีเมียร์ลีก และที่นิวคาสเซิลในคาราบาวคัพ สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนที่อาจถูกคู่แข่งใช้เป็นโอกาสในการเอาชนะได้ การต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ยุโรปจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะมีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นก็ตาม
เมื่อพูดถึงการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้กลายเป็นทีมที่หลายคนจับตามอง ด้วยความแข็งแกร่งและสไตล์การเล่นที่หลากหลาย พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการก้าวไปถึงจุดสูงสุดของยุโรป อย่างไรก็ตาม ตามคำของริโอ เฟอร์ดินานด์ สิ่งเดียวที่อาจทำให้พวกเขาพลาดโอกาสคือการเผชิญหน้ากับทีมที่มี ‘ดาวเด่น’ สามารถเปลี่ยนเกมในชั่วพริบตา ด้วยสถิติการแพ้เพียงไม่กี่ครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ละเกมที่พลาดชัยชนะได้สอนบทเรียนและเตรียมพร้อมพวกเขาสำหรับการท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่อไป
